รังสีตกกระทบและรังสีสะท้อนสอนคุณธรรม

ดร.ไพจิตร สดวกการ    



          เมื่อตอนที่พี่ไผ่หน้าดำคร่ำเครียดอยู่กับการทำวิทยานิพนธ์ จนแทบจะสำลักความเครียดตายนั้น ญาติมิตรจะอาศัยไหวัวานอะไร ก็ให้รู้สึกว่าเป็นการรบกวน เหมือนคนไร้น้ำใจ

          ช่วงนั้นเอง "น้องน้อย" เพื่อนสนิทของพี่ไผ่ ซึ่งอยู่ต่างจังหวัดแสนไกล ก็มาขอให้พี่ไผ่ช่วยจัดการ เรื่องการสมัครสอบเรียนต่อให้ นับตั้งแต่การซื้อใบสมัคร การสมัคร ดูสถานที่สอบ ดูรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ หาที่พักให้ ส่งข่าวให้เป็นระยะ ๆ ไปรับ ไปส่ง เวลาที่น้องน้อยเข้ากรุงเทพฯ แจ้งผลการสอบข้อเขียน การสอบสัมภาษณ์ รายละเอียดต่าง ๆ ในการรายงานตัว ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่ต้องรีบแจ้งให้ทราบทางโทรศัพท์ทางไกลทั้งสิ้น และตอนนั้นที่บ้านน้องน้อยไม่มีโทรศัพท์ ต้องโทรทางไกลไปที่ทำงานของแฟนน้องน้อยในเวลากลางวัน (ค่าโทรศัพท์แพงมาก) และหาตัวน้องน้อยยากด้วย ต้องโทรตั้งหลายครั้ง ข่าวว่าตั้งแต่ประกาศผลว่าน้องน้อยสอบได้ ผอ. ก็อนุญาตให้น้องน้อยลาเพื่อเตรียมตัวเกี่ยวกับการรายงานตัวเข้าเรียน ไม่ต้องไปโรงเรียนอีกแล้ว แทนที่น้องน้อยจะอยู่คอยรับโทรศัพท์จากพี่ไผ่ แต่กลับวิ่งไปโน่นมานี่ วัน ๆ ไม่ได้อยู่ติดบ้านเลย ซึ่งเรื่องนี้พี่ไผ่รู้สึกน้อยใจมาก แฟนน้องน้อยก็ได้ดุน้องน้อยว่า พี่ไผ่เขาช่วยเหลือเธอ เธอควรจะตอบแทนด้วยการอยู่ให้พี่ไผ่ช่วยได้สะดวกหน่อย ไม่ใช่วัน ๆ เอาแต่ตะลอน ๆ ไปช่วยคนนั้นคนนี้ น้องน้อยตอบว่า

          "นี่แหละ ก็เพราะฉันเที่ยวช่วยคนอื่น พี่ไผ่ถึงได้ช่วยฉันไง"

คำตอบของเขา ทำให้พี่ไผ่นึกไปถึงเรื่องรังสีตกกระทบและรังสีสะท้อนทันที และสามารถขจัดความรู้สึกขัดแย้งและความน้อยใจไปได้เป็นปลิดทิ้ง รู้สึกว่าได้ยกระดับจิตใจของตนเองขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง เกิดความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่า

การที่ A ช่วย B แต่ B ไปช่วย C นั้นเป็นเรื่องธรรมดาตามธรรมชาติดังภาพรังสีตกกระทบและรังสีสะท้อนข้างล่างนี้
กรณีที่รังสีสะท้อนจะย้อนรอยเดิมของรังสีตกกระทบมีเพียงกรณีเดียว คือ กรณีที่รังสีตกกระทบตั้งฉากกับแนวระนาบที่จุดตกกระทบเท่านั้น กรณีอื่น ๆ ล้วนแต่สะท้อนไปในแนวที่ไม่ย้อนแนวเดิมทั้งสิ้น !

บางครั้งเราก็ทำบทบาทในตำแหน่ง A
(ช่วยคนอื่น)

แต่บางครั้งเราก็อยู่ที่ตำแหน่ง B
(ได้รับความช่วยเหลือจากคนหนึ่ง แล้วไปช่วยคนอื่นต่อ)

และบางครั้งเราก็อยู๋ที่ตำแหน่ง C
(ได้รับผลบุญที่สะท้อนมาจากคนอื่นซึ่งเราตระหนักรู้ หรือไม่ตระหนักรู้ก็มี)

          คนเราที่ได้ดิบได้ดี อยู่ดีกินดีอยู่ทุกวันนี้นั้น นอกจากการพึ่งตนเองแล้ว ส่วนหนึ่งเราได้จากผู้ส่งเสริม สนับสนุนเราซึ่งเรารู้จักตัวเขา แต่ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่อุปถัมภ์ค้ำชูเราอยู่โดยที่เราไม่ตระหนักรู้



เขียนเมื่อ 5 ก.พ. 2544        
แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่นี่